Newsletter
จดหมายข่าวฉบับที่ 34 นี้ ขอเสนอเรื่อง “สิ่งที่คนเป็นผู้นำควรกระทำเมื่อเผชิญกับวิกฤต” ครับ

ความโกลาหลเนื่องจากไวรัสโคโรน่ากำลังขยายตัว ในอนาคตอันใกล้ ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ก็คงจะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตอนที่เกิดวิกฤตการณ์ Lehman Brothers ในปีค.ศ. 2008 เศรษฐกิจโลกก็ได้รับความเสียหายในระดับมหาศาลเช่นกัน ตอนนั้นผมทำงานเป็นพนักงานระดับกลางในบริษัทแห่งหนึ่ง บริษัทแห่งนี้ได้หยุดการรับพนักงานใหม่ มีการปิดบางแผนก แล้วย้ายพนักงานแผนกนั้นไปยังแผนกอื่นแทน มีการลดเงินเดือน แถมยังมีเพื่อนร่วมงานจำนวนมากที่ถูกจ้างให้ออกจากงานด้วย บรรยากาศในที่ทำงานจึงหมองหม่นไม่น้อย
แม้กระทั่งในปัจจุบัน พอผมย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ผมก็ยังรู้สึกทรมานใจ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเข้าใจแล้วว่าผู้บริหารองค์กรในขณะนั้นซึ่งตัดสินใจ ดำเนินมาตรการแก้ไขอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องรู้สึกอย่างไร
ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ เศรษฐกิจโลกเติบโตด้วยดี ดังนั้น ผมจึงคิดว่ายังมีหลายท่านที่ไม่เคยมีประสบการณ์ผ่านช่วงเศรษฐกิจตกต่ำมาก่อน ทั้งนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะเกิดขึ้นอย่างเป็นระยะอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ เราจะต้องไม่ตื่นตระหนก รับมืออย่างเหมาะสม และ มีสติ ในช่วงเวลาเช่นนี้ การกระทำของคนเป็นผู้นำมีความสำคัญมากที่สุดก็ว่าได้ ทว่า คนที่เป็นผู้นำควรปฏิบัติตัวอย่างไรดีครับ

1)สร้างขวัญกำลังใจให้แก่สมาชิกในทีม
ถ้ากัปตันผู้เดินเรือที่กำลังจะจม เอาแต่พูดว่า “แย่แล้ว แย่แล้ว” ผู้โดยสารก็คงจะพากันตื่นตระหนก ผู้นำจึงต้องเป็นคนที่ใจเย็น และ มีสติที่สุดครับ
ตอนที่บริษัท Alibaba มีพนักงานติดโรคซาร์ส แจ็ค หม่าได้พูดสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงานทุกคนว่า “นอกจากจะต่อสู้กับปัญหาโรคซาร์สแล้ว ก็อย่าลืมพันธกิจ และ หน้าที่ในฐานะพนักงานบริษัท Alibaba ด้วย” ส่งผลให้พนักงานทั้งหลายพยายามทำงานร่วมกันอย่างสามัคคี
ผมเองก็ตั้งใจว่าจะเตรียมใจ และ เตรียมตัวเองให้พร้อม ให้อยู่ในสภาพที่ผมสามารถพูดออกมาได้ว่า เราจะไม่เป็นไร เราจะก้าวไปข้างหน้า

2)เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
Konosuke Matsushita ผู้ก่อตั้ง Panasonic เคยกล่าวไว้ว่า “เศรษฐกิจเติบโตนั้นเป็นเรื่องดี เศรษฐกิจหดตัวนั้นยิ่งเป็นเรื่องดี”
จะว่าไป ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะใช้ในการเปลี่ยนแปลงบริษัทตนเองนะครับ อย่างเช่น ในขณะนี้องค์กรหลายแห่งทั่วโลกได้หันมาให้พนักงานทำงานแบบ Remote working เป็นวิธีการทำงานที่หลายคนอยากทำมานานแล้วแต่ยังไม่สามารถทำได้ เรียกได้ว่านี่เป็นโอกาสที่บังคับให้บริษัทต่าง ๆ ต้องใช้ระบบการทำงานแบบนี้ก็ว่าได้
แม้กระทั่ง งานส่วนอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลง Business Portfolio ขององค์กร การปรับให้ระบบการเงินขององค์กรดีขึ้น หรือ การเผยแพร่นโยบายของบริษัทไปยังพนักงานอย่างจริงจัง เราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เนื่องจากเราอยู่ในช่วงวิกฤตนี่ล่ะครับ
เรามาลองนึกถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นกับตนเองในอดีต หรือ วิกฤติที่เคยเกิดขึ้นกับบริษัทของเรากันนะครับ ส่วนใหญ่ ประสบการณ์เหล่านั้นน่าจะทำให้ท่านรู้สึกว่า “ตนพัฒนาขึ้น” ไม่ใช่เหรอครับ
ถ้าพูดถึงประเทศไทย เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปีค.ศ. 2011 น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน หลายท่านเล่าเรื่องในตอนนั้นอย่างภูมิใจว่า “แม้มันจะเป็นประสบการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม แต่ทุกคนก็สามัคคีกัน และ พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ในครั้งนั้น”
เมื่อพิจารณาในแง่นี้ ก็จะเห็นว่า วิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอาจจะแฝงไว้ด้วยโอกาส แม้ตอนนี้ เราจะมองว่ามันคือวิกฤต แต่ในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับมา ก็จะพบว่ามันคือโอกาสที่ดี

3)พิจารณาโดยยึดตัวเลขเป็นหลัก
พอเรากังวลใจ แม้แต่ “ค่าใช้จ่ายไม่กี่พันบาท” ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เราก็จะพยายามประหยัด แต่ถ้า “หยุดทุกอย่างโดยไม่สนอะไร” พนักงานก็อาจจะรู้สึกกังวลใจ แถมสิ่งที่พยายามทำมาก่อนหน้านี้ก็อาจจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้
ผมเองตั้งใจว่าจะตัดสินใจแบบนี้ครับ สิ่งที่ควรหยุดก็หยุด แต่สิ่งที่ควรทำต่อก็ต้องทำต่อ
พิจารณาดูตัวเลขให้ดีแล้วประเมินระดับความเสี่ยง พิจารณาดูว่าตัวเลขยอดขายขั้นต่ำควรอยู่ที่เท่าไรก่อน จากนั้นก็พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วค่อยตัดสินใจว่า “ตอนนี้ เราควรตัดค่าใช้จ่ายไม่กี่พันบาทตรงนี้ไหม”
ผมเคยได้ยินมาว่า “การตัดสินใจเลือกนั้นบ่งถึงการยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของตน”
ถ้าเรามีวิสัยทัศน์ที่เราอยากสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้ เราก็จะพยายามคิดอย่างถี่ถ้วนว่า เราควรจะหยุดทำสิ่งไหนเมื่อความกังวลอยู่ตรงหน้า

4)พิจารณาโดยแบ่งแยกประเด็นมหภาค และ จุลภาค
ตอนผมเริ่มทำธุรกิจในไทย ประเทศไทยกำลังถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง
มีหลายเหตุการณ์ที่สร้างความกังวล เช่น การปฏิวัติในปีค.ศ. 2014 การก่อการร้ายในกรุงเทพในปีค.ศ. 2015 ส่งผลให้บริษัทบางแห่งลังเลที่จะเข้ามาทำธุรกิจในไทย
แต่พอผมสอบถามกับบริษัทบางแห่ง ก็พบว่า บางแห่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเลย นอกจากนี้ แนวโน้มด้านผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจแต่ละประเภทนั้นก็ยังแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ เราก็อาจจะสามารถทำธุรกิจร่วมกับองค์กรที่ทำกำไรได้ หรือ ทำธุรกิจในแวดวงข้างต้นได้
การที่ภาพรวมเศรษฐกิจดูตกต่ำนั้น ไม่ได้หมายความว่า ผลประกอบการของบริษัทของเราจะต้องได้รับผลกระทบในระดับที่เลวร้ายเท่าภาพรวม
พอเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมจะวิตกกังวล และ มองสิ่งต่าง ๆ ในเชิงลบไปเสียหมด แต่เราจำเป็นต้องจับตามองธุรกิจที่อยู่ตรงหน้า ดูสภาพความเป็นไปของลูกค้าให้ดี แล้วจึงตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ อย่าตัดสินสิ่งต่าง ๆ โดยพิจารณาจากแนวโน้มของตลาดโดยรวมเพียงอย่างเดียวครับ

5)ทำตัวร่าเริง
อาจารย์ของผมสอนไว้ว่า “ความร่าเริงนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องสร้างมันขึ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเอง”
กล่าวคือ เมื่อเรารู้สึกว่าไฟในตัวเราลดน้อยลง ลองมองกลับมาที่ตัวเองแล้วจะพบว่าสาเหตุก็อยู่ที่ตัวเราเองด้วย ดังนั้น อันดับแรก เราต้องทำตัวเองให้ร่าเริงก่อน
ตอนที่เรารู้สึกกลุ้มใจ เราจะไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มร้อย จากที่เคยคิดหาไอเดียใหม่ ๆ ได้ตลอด ก็กลายเป็นคิดอะไรไม่ออก จากที่เคยขายของได้ดี ก็กลายเป็นขายไม่ได้ พอผลงานออกมาไม่ดี ก็ยิ่งไม่ร่าเริงสดใสเข้าไปอีก เรียกว่า ตกอยู่ในวงจรอันเลวร้ายครับ
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เราต้องต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่ถ้าไม่สามารถแสดงศักยภาพอะไรได้เลย แล้วจะไปต่อได้อย่างไร ดังนั้น อันดับแรก เรามาชวนกันพูดคุย ทานของอร่อย ๆ ตัดตนเองออกจากวงจรอันเลวร้าย แล้วมุ่งหน้าไปยังสนามรบด้วยกันนะครับ
เรามาสร้างความฮึกเหิม และ พยายามไปด้วยกันนะครับทุกท่าน!
—–
ในปีค.ศ. 2020 นี้ บริษัท Asian Identity ก็จะจัดคอร์สอบรมอย่างหลากหลายโดยยึดคำว่า Asian Identity College เป็นประเด็นหลัก เรามีคอร์สยอดนิยมจำนวนมาก เช่น “HR College” สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานด้าน HR และ “Identity Leadership Workshop” ซึ่งเป็นคอร์สสำหรับผู้เป็นหัวหน้างาน หากท่านสนใจ กรุณาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
ข้อมูลคอร์สอบรม AI College 2020: https://asian-identity.com/hr-egg-th/event
Credit:
Photo by Robert Metz from Unsplash
Photo by Jehyun Sung from Unsplash
Photo by Helena Lopes from Unsplash
Photo by Matthew T Rader fromUnsplash
Photo by Volkan Olmez from Unsplash
Photo by Devin Avery from Unsplash
Photo by chaitanya pillala from Unsplash
[content_block id=1898 title=yes title_tag=h3]
02 ก.พ., 2023
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.53 “ลมกับพระอาทิตย์” – FEB, 2023
23 ก.ค., 2019
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.24 เอเซียเป็นหนึ่งเดียวกัน – APRIL , 2019
02 ก.ค., 2024
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.59 ทำไมในที่ทำงานถึงมี “พนักงานเจ้าปัญหา”? – JUN, 2024