HOME > Articles > AI NEWSLETTER Vol.37 เปลี่ยนแปลงวิถีที่เป็นอยู่ ไม่ใช่วิธีที่ทำอยู่: สิ่งที่หัวหน้างานควรกระทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง – JUNE , 2020
Newsletter

AI NEWSLETTER Vol.37 เปลี่ยนแปลงวิถีที่เป็นอยู่ ไม่ใช่วิธีที่ทำอยู่: สิ่งที่หัวหน้างานควรกระทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง – JUNE , 2020

06 มิ.ย..2020

AI Newsletter ฉบับที่ 37 นี้ ผมขอเล่าถึงประเด็นที่ผมฉุกคิดได้ในช่วงที่ผ่านมานะครับ

เปลี่ยนแปลงวิถีที่เป็นอยู่ ไม่ใช่วิธีที่ทำอยู่: สิ่งที่หัวหน้างานควรกระทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

ขอเริ่มด้วยเหตุการณ์สามีภรรยาทะเลาะกันนะครับ (นี่ไม่ใช่เรื่องราวของครอบครัวผมนะครับ)

มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ฝ่ายสามีไม่ค่อยทำงานบ้าน ฝ่ายภรรยาจึงรู้สึกไม่พอใจว่า ทำไมตนจึงต้องเป็นผู้ทำงานบ้านเพียงฝ่ายเดียว อยู่มาวันหนึ่ง พอสามีวางจานข้าวที่กินเสร็จแล้วไว้โดยไม่ล้าง ภรรยาจึงระเบิดอารมณ์ออกมา พอเห็นเช่นนั้น สามีจึงบอกว่า “รู้แล้ว รู้แล้ว” แล้วก็ล้างจานนั้นอย่างไม่เต็มใจนัก

แม้กระนั้น ภรรยาก็ยังไม่หายอารมณ์เสีย สามีจึงไม่พอใจในท่าทีของภรรยามากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด เขาจึงโมโหใส่ภรรยา และ ตอกกลับว่า “ก็ล้างจานแล้วไง! ทำไมยังโกรธอยู่อีกล่ะ! จะให้ทำอะไรกันแน่!” การกระทำข้างต้นเปรียบเหมือนการราดน้ำมันบนกองไฟ สามีภรรยาคู่นี้จึงทะเลาะกันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

การทะเลาะกันเช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นจริงที่ไหนสักแห่ง ในบางครั้ง ฝ่ายสามีอาจเป็นผู้เริ่มไม่พอใจก่อนก็ได้ เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น

ประเด็นที่เป็นปัญหาในการสื่อสารข้างต้น คือ การที่ฝ่ายสามีคิดว่า “ปัญหาจะจบลงหากเขาล้างจาน” หากมองเรื่องนี้อย่างเป็นกลาง จะเห็นได้ว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่อง “การล้างจาน” เพียง “เรื่องเดียว” แต่ยังมีเหตุการณ์ต่าง ๆ  ที่พัวพันอยู่เบื้องหลัง เช่น วาจา และ การกระทำในแต่ละวันของผู้เป็นสามี ความแตกต่างระหว่างค่านิยมเกี่ยวกับการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานบ้าน และ อาจจะรวมถึงเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังค้างคาใจกันอยู่ก็ได้

ผลจากการที่ฝ่ายภรรยาสั่งสมความรู้สึกไม่พอใจมานาน วันหนึ่งไฟที่สุมทรวงอยู่จึงปะทุขึ้นการล้างจานนั้นเป็นเพียงแค่ฟางเส้นสุดท้ายเท่านั้น สาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหานั้นมักจะอยู่ที่ “ความเชื่อมโยงขององค์ประกอบหลาย ๆ ส่วน ไม่ใช่แค่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง” บ่อยครั้ง เราจึงไม่สามารถระบุสาเหตุด้วยคำสั้น ๆ ได้

ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้างานกับลูกน้องก็เช่นเดียวกัน

หัวหน้างานอาจจะหงุดหงิดที่ “เหล่าลูกน้องไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเลย ทั้ง ๆ ที่หัวหน้างานเองพยายามรับฟังลูกน้องอย่างเต็มที่แล้ว” แต่ลองพิจารณาก่อนนะครับว่า คุณได้พยายามรับฟังลูกน้องด้วยท่าที “เปิดรับ” แล้วจริงหรือไม่ ถ้าหัวหน้างานแสดงสีหน้าหงุดหงิดใส่ลูกน้อง ลูกน้องจะรู้สึกว่าหัวหน้างานไว้ใจตนได้อย่างไร

จากกรณีข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่าหัวหน้างานเข้าใจผิดว่า เขาสามารถแก้ปัญหาได้ด้วย “การรับฟังเรื่องราวของลูกน้อง” แท้จริงแล้ว “การรับฟังลูกน้อง” เป็นเพียง “วิธีหนึ่ง” ที่ใช้ในการแสดงความไว้วางใจในตัวอีกฝ่ายเท่านั้น สิ่งที่ทำให้ผู้เป็นลูกน้องรู้สึกว่าตนได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างานนั้น คือ วาจา และ การกระทำในทุก ๆ วันของหัวหน้างาน ตราบใดที่เรายังมองไม่เห็น “ความเชื่อมโยงขององค์ประกอบต่าง ๆ” ซึ่งก่อให้เกิดปัญหา สถานการณ์ก็จะยังคงไม่ได้รับการแก้ไข


Constellation (กลุ่มดาว)
อาจารย์ฮายาโอะ คาวาอิ  นักจิตวิทยาผู้ล่วงลับ เรียกความเชื่อมโยงข้างต้นนี้ว่า Constellation (คาร์ล ยุง นักจิตวิทยาชาวสวิสเคยใช้คำว่า Constellation อธิบายทฤษฎีของเขามาก่อน)  Constellation แปลว่า กลุ่มดาว หากเรามองดาวแต่ละดวงแยกกัน ก็จะไม่เห็นความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าเชื่อมดาวดวงต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ก็จะเห็นถึงความหมายของมัน

ทั้งนี้ ในกรณีส่วนใหญ่ ต่อให้ดูดาวแต่ละดวงเชื่อมต่อกันแล้ว ก็จะยังไม่เข้าใจถึงความหมายของกลุ่มดาวนั้นอยู่ดี เช่น ต่อให้มีคนชี้บอกเราว่า “นี่คือกลุ่มดาวประจำราศีเมษ (กลุ่มดาวแกะ)” เราก็คงยังมองไม่ออกว่าจุด 4 จุดบนท้องฟ้าหน้าตาเหมือนแกะตรงไหน คนโบราณน่าจะสร้างสรรค์เรื่องราวเกี่ยวกับราศีเมษ โดยนำจุดทั้ง 4 มาร้อยเรียงกัน และ ใช้ความคิดสร้างสรรค์แต่งเติมส่วนอื่น ๆ เข้าไปด้วย (คำว่า Connecting the Dots ที่ Steve Jobs เคยกล่าวไว้ และ หลายท่านน่าจะรู้จักกันดีนั้น ผมว่ามันก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Constellation ซึ่งสื่อถึงการมองหาความหมายของช่องว่างที่อยู่ระหว่างจุดแต่ละจุดเช่นกัน)

อาจารย์คาวาอิอธิบายถึงคำว่า Constellation โดยชี้ให้พวกเราเห็นว่า “ตัวเราอยู่ท่ามกลางอุบัติการณ์นั้นด้วย” อย่ามองว่าตัวเราไม่ได้อยู่ในขอบข่ายของปัญหา อย่าคิดว่าถ้ากำจัดจุดที่เป็นปัญหาออกไปได้แล้วเรื่องก็จะจบ จงมองว่าตัวเราเองก็ยืนอยู่ระหว่างจุดแต่ละจุดที่เป็นปัญหานี้ด้วย เท่ากับว่า ตัวเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาด้วย ถ้าไม่มองให้เห็นภาพรวมทั้งหมด ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข

เวลาที่ผมอธิบายเรื่องนี้ให้เหล่าผู้บริหารฟัง ผมจะบอกกับพวกเขาว่า “แค่เปลี่ยนวิธีการกระทำอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ควรเปลี่ยนวิถีความเป็นคุณด้วย” วิธีปฏิบัตินั้นเปรียบเหมือน “จุด” เพียงจุดหนึ่ง หากจะแก้ไขปัญหา เราก็จำเป็นต้องคิดว่า “ตัวเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของภาวะอันเป็นปัญหา” และ จำเป็นต้องปรับปรุงวิถีที่เป็นอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่เปลี่ยนวิธีการปฏิบัติเพียงอย่างเดียว เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะว่า เวลาที่องค์กรประสบปัญหา ผู้บริหารย่อมเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานั้นด้วยเสมอ


ทบทวน “วิถีการเป็นผู้นำ” ในยามคับขัน
ปัจจุบันนี้ เชื้อไวรัสโคโรนาส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องปฏิรูปองค์กร เช่น นำระบบดิจิตอลเข้ามาใช้ ปฏิบัติงานแบบรีโมท หรือ ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นที่ต้องการมาแต่เดิม แต่ที่ผ่านมายังทำไม่สำเร็จ หรือ ยังไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง นี่ถือเป็นโอกาสในการปฏิรูปองค์กรอย่างจริงจังก็ว่าได้

องค์กรหลายแห่งใช้วิธีการต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร นั่นเป็นเพราะว่าผู้นำที่สังกัดอยู่ในองค์กรนั้น ๆ ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการเป็นผู้นำ ในโอกาสนี้ ผมจึงอยากให้คุณผู้อ่านมองวิกฤติครั้งนี้เป็นโอกาส ผมอยากให้คุณท้าทายตนเองด้วยการทบทวน “วิถีที่ตนเป็นอยู่” ไม่ใช่แค่พยายามเปลี่ยน “วิธีกระทำ” เพียงอย่างเดียว

ถ้าคุณรู้สึกว่าทำงานแบบ Work From Home แล้วสื่อสารกันน้อยลง ก็ลองเพิ่มระดับการสื่อสารกับผู้อื่นอย่างเต็มที่ โดยมองว่านี่คือโอกาสในการพัฒนาภาวะผู้นำของตน

อย่าเพิ่งพอใจกับการนำเครื่องมือดิจิตอลใหม่ ๆ เข้ามาใช้งาน แต่ควรจะศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือนั้นอย่างเต็มที่ด้วยตนเอง รวมทั้งใช้เครื่องมือนั้นให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุดก่อน การกระทำข้างต้นจะส่งผลให้คุณกลายเป็นบุคคลตัวอย่างด้านการปรับปรุงองค์กรให้เข้ากับยุคดิจิตอล

เมื่อผู้นำสามารถแสดงภาวะผู้นำซึ่งส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ไม่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เราก็จะเริ่มมีความหวังว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นภายในองค์กรได้จริง

ผมขอจบจดหมายข่าวฉบับนี้ไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านครับ

 

*ฉบับภาษาญี่ปุ่นอยู่ตรงนี้ครับ ถ้าเป็นไปได้ ขอให้คุณผู้อ่านแชร์จดหมายข่าวนี้ให้แก่คนรู้จัก หรือ เพื่อนร่วมงานด้วยนะครับ

Link: https://hr-egg-jp.asian-identity.com/newsletter/june-2020

*ทีมผู้จัดทำ AI Newsletter ยินดีรับฟังความเห็น และ ตอบคำถามของคุณผู้อ่านครับ! คุณสามารถส่งอีเมลแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก หรือ สอบถามมายัง info@a-identity.asia ได้เลยนะครับ! ขอโอกาสให้ผมได้ลองเขียนบทความในลักษณะถามตอบกับคุณผู้อ่านทุกคนด้วยนะครับ

 

Credit:
Photo by Bruno Cervera from Unsplash
Photo by Pixabay from Pexels
Photo by Snapwire from Pexels
Photo by Nijwam Swargiary form Unsplash

 

 

[content_block id=1898 title=yes title_tag=h3]