Newsletter
สำหรับ AI Newsletter ฉบับที่ 54 นี้ รวมทั้งอีกหลายฉบับต่อจากนี้ ผมอยากจะชวนทุกท่านมาลองขบคิดเรื่อง “ความเป็นผู้นำในแบบเอเชีย” กันครับ
พวกเราชาว Asian Identity เชื่อว่า รูปแบบการบริหารจัดการองค์กรที่เหมาะสมกับคนเอเชียนั้นมีอยู่จริง
เนื่องจากแต่ละประเทศนั้นมีวัฒนธรรมและภาษาแตกต่างกันออกไป หากบังคับใช้กฎเกณฑ์เดียวกันทั่วโลกโดยไม่คำนึงถึงตัวแปรข้างต้น ก็จะส่งผลให้การทำงานเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น
โดยเฉพาะ “งานบริหารบุคลากร” ซึ่งมีเรื่องความรู้สึกของพนักงานเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น มีหลายประเด็นที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง คนในวงการ HR คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า ถ้านำกฎเกณฑ์สากลซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลกมาใช้ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ก็มักจะไม่ได้ผลตามที่ต้องการนัก

มาดูกันว่าลักษณะเด่นของภูมิภาคเอเชียคืออะไร? แน่นอนว่า เอเชียนั้นกว้างขวางและหลากหลายมากเสียจนไม่สามารถอธิบายสั้นๆได้ แต่สำหรับสิ่งที่ต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออกนั้น มีนักวิชาการชื่อ Robert Nisbet Bain สรุปไว้ดังนี้
“แนวคิดของคนยุโรป คือ การที่การกระทำของบุคคลหนึ่งนั้นเป็นที่เข้าใจได้เมื่ออ้างอิงตามกฎเกณฑ์ที่เรียบง่าย”
“โลกของชาวเอเชียนั้นซับซ้อนกว่า จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยหลากหลายในการทำความเข้าใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง”
โลกตะวันตกมักจะนำสิ่งต่างๆ มาอธิบายด้วยคำพูด วิเคราะห์ และสร้างข้อกำหนดขึ้นมา ส่วนโลกตะวันออกจะทำตรงกันข้าม เรื่องที่คลุมเครือก็จะปล่อยไว้เช่นนั้นโดยไม่พยายามหาคำอธิบายมากจนเกินไป
แม้ในทางการแพทย์ เราก็มองเห็นความแตกต่างระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออกเช่นกัน โลกตะวันตกจะวินิจฉัยโรคตามอาการ เมื่อรักษาอาการนั้นหายก็จะถือว่าหายป่วย ส่วนการแพทย์แผนตะวันออกมักจะพิจารณาถึงภาพรวม และการฟื้นตัวของร่างกายด้วย กล่าวคือ การแพทย์ทั้งสองฝั่ง “โฟกัส” กันคนละจุด จึงถือเป็นอีกหนึ่งความแตกต่างของวัฒนธรรมสองฝั่งก็ว่าได้

ลักษณะเด่นของแนวคิดแบบเอเชียคือ การให้ความสำคัญกับ “ตนเอง” มากกว่า “ความจริงที่ไร้อคติ”
ศาสนาพุทธซึ่งถือกำเนิดในประเทศอินเดียเชื่อเรื่อง “กรรมเป็นผลของการกระทำ” จึงสอนให้ผู้คนละทิ้งกิเลส (=เพื่อไปสู่นิพพาน) ส่วนลัทธิเต๋าในจีนนั้น เน้นเรื่องการละทิ้งเจตนา และปฏิบัติต่อโลกด้วยการกระทำที่สอดคล้องกับธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า “นิรกรรม (อู๋เหวย)” นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดแบบใดก็ตาม สุดท้ายแล้ว “การควบคุมตนเอง” ก็คือสาระสำคัญ
ผมมองว่า แนวคิดเหล่านี้เป็นประโยชน์กับพวกเราซึ่งเป็นผู้คนในยุคปัจจุบัน
คุณผู้อ่านคงมีเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องที่ไม่ค่อยขยันทำงานสักเท่าไรใช่ไหมครับ ซึ่งเรามักจะมองว่า พวกเขาเป็น “คนหัวรั้น” แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาอาจจะกำลังเจอปัญหาอะไรอยู่
อย่างไรก็ตาม การมองพวกเขาเป็นปัญหาไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพื่อให้พวกเขาตั้งใจทำงานมากขึ้น ลองทบทวนดูครับว่า เราเองสามารถปรับเปลี่ยนแนวทางการเข้าถึงอีกฝ่ายได้ไหม สถานการณ์อาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ

เม่งจื๊อเคยกล่าวไว้ว่า
ถ้าเราพยายามสื่อสารอย่างจริงใจ อย่างไรก็ไม่มีคนที่ไม่ลงมือปฏิบัติ”
ในสถานที่ทำงาน ย่อมมีคนที่เราทำงานด้วยลำบาก คำว่า “อย่างไรก็ไม่มีคนที่ไม่ลงมือปฏิบัติ” อาจจะเป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปหน่อย แต่ในทางกลับกัน คำกล่าวนั้นทำให้เราฉุกคิดได้ว่า “ก่อนที่จะตัดสินใครว่าเขาคงไม่ลงมือปฏิบัติ ให้ลองพยายามในส่วนของตัวเองให้เต็มที่ก่อน”
ที่จริงแล้ว เมื่อมนุษย์เรามองว่าใครคนหนึ่ง “เป็นอย่างนี้อย่างนั้น” ไปเสียแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนความคิดนั้น พูดง่ายๆ ว่ามี “อคติ” ไปแล้ว
ถ้าเราสื่อสารกับอีกฝ่ายด้วยอคติข้างต้น ผู้ฟังก็อาจจะสัมผัสได้ และรู้สึกต่อต้านยิ่งขึ้นในการรับสาร และก็จะส่งผลให้ตัวเราเองยิ่งมั่นใจว่า “เขาคงเข็นไม่ขึ้นแล้ว” ความสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นเปราะบาง และหลุดเข้าสู่วงจรความสัมพันธ์ที่เป็นพิษได้อย่างง่ายดาย
ผู้ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้คือตัวของคุณเอง สำหรับคุณผู้อ่านที่เป็นหัวหน้างาน หากคุณรู้ทันความคิดของตนเองที่มีต่อสิ่งรอบตัว คุณก็จะสามารถหลีกเลี่ยงวงจรข้างต้นได้ นอกจากนี้ ผู้บริหารองค์กรก็คาดหวังว่า พนักงานแผนก HR ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรจะสามารถทำได้ในลักษณะเดียวกัน
สรุปได้ว่า “ถ้าผู้นำเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น องค์กรก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้” พวกเราชาว Asian Identity อ้างอิงแนวคิดข้างต้นในการพยายามหาวิธีต่างๆ เพื่อพัฒนาบุคลากรครับ
โลกเอเชียมีแนวคิดมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อผู้นำองค์กรมาตั้งแต่เมื่อ 2000 ปีก่อน ในครั้งต่อ ๆ ไป ผมจะนำแนวคิดอื่นๆ มาแนะนำในจดหมายข่าวนะครับ
ผมขอจบจดหมายข่าวฉบับนี้ไว้เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่าน
* ฉบับภาษาญี่ปุ่นอยู่ตรงนี้ครับ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นอ่านด้วยนะครับ! คลิกที่นี่
* ข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สพัฒนาบุคลากรระดับผู้จัดการชาวไทยและญี่ปุ่น อ่านที่นี่
* ข้อเกี่ยวกับคอร์สพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรรูปแบบ In-house คลิกที่นี่
*คุณนากามุระ CEO บริษัท Asian Identity ออกหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับแนวคิดแบบเอเชีย กดอ่านรายละเอียดได้ที่นี่
Kinokuniya > https://thailand.kinokuniya.com/bw/9784866214498
Amazon > https://tinyurl.com/3wffbdkj
Credit:
Photo by Pixabay from Pexels
Photo by Ryutaro Tsukata from Pexels
Photo by Andrea Piacquadio from Pexels
Photo by mododeolhar from Pexels

Katsuhiro Nakamura (Jack)
CEO & Founder, Asian Identity Co., Ltd.
ดำเนินกิจการบริษัท Asian Identity องค์กรให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลซึ่งมีความชำนาญงานในภูมิภาคเอเชีย และ มีประเทศไทยเป็นจุดเริ่มต้น ดำรงตำแหน่งปัจจุบันหลังจากสั่งสมประสบการณ์ทำงานที่บริษัท Nestlé บริษัท Link and Motivation และ บริษัท GLOBIS ปัจจุบันรับผิดชอบงานด้านการให้คำปรึกษา และ จัดอบรมในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียโดยมีสำนักงานในประเทศไทย ระหว่างที่อยู่ในกรุงเทพ ยังได้เขียน และ จำหน่ายหนังสือ “สู้สู้ PIM! (Su Su Pim!)” การ์ตูนให้ความรู้ด้านการทำธุรกิจสำหรับชาวไทยด้วย
– Certified Facilitator of LEGO® SERIOUS PLAY®
– Completed ORSC™ – Organization and Relationship System Coaching Practical Application Course
– Certified Facilitator of Hofstede Insight Organizational Culture (วัฒนธรรมองค์กร)
– CoachingOurselves Facilitator
24 ก.ค., 2017
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.4 วิธีการประเมินบุคคลากรอย่างเหมาะสม
18 ส.ค., 2021
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.48 ทุกสิ่งเกี่ยวพันกัน: เตรียมใจอย่างไรจึงจะไม่กระวนกระวายใจไปกับข้อมูลที่ได้รับ
18 ก.ค., 2019
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.26 การบริหารจัดการความสัมพันธ์ในองค์กร