Asian Identity

โลกแห่ง HR ไม่มีคำว่า “One Size Fits All” ～เปิดตัวบล็อก HR EGG พื้นที่สำหรับเรียนรู้ และ พิจารณาเรื่อง HR ในเอเชีย～

13 ส.ค..2019

สวัสดีครับ ผม นากามูระ (Jack) จาก Asian Identity ครับ ทางเราได้ริเริ่มจัดทำบล็อกของบริษัท Asian Identity ขึ้น เพื่อให้เรื่องราวเกี่ยวกับ HR ในเอเชียเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกท่านยิ่งขึ้น โดยจะจัดทำทั้งภาษาญี่ปุ่น และ ภาษาไทยครับ

ท่านเคยได้ยินคำว่า “One Size Fits All” ไหมครับ ในวงการเสื้อผ้า คำนี้หมายถึง “เสื้อผ้าที่พอดีตัวทุกคน”

สำหรับในวงการ HR เอง เราก็มักจะเห็นแนวโน้ม “การเลียนแบบแนวคิดซึ่งกำลังเป็นที่นิยม หรือ นำเครื่องมือซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมาใช้” รวมทั้ง “การนำสิ่งที่องค์กรอื่นทำแล้วประสบความสำเร็จมาใช้ในองค์กรของตน” ปัจจุบัน นโยบายด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท Google หรือ Netflix นั้น กำลังได้รับยกย่อง และ เกิดกระแสนิยมเลียนแบบนโยบายเหล่านั้น

แต่ทว่า ในโลกแห่งการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้น ไม่มีนโยบายการทำงานใดที่จะ “เหมาะสมกับองค์กรทุกรูปแบบ” นโยบายด้านทรัพยากรบุคลนั้น จะเป็นต้องถูกปรับให้เข้ากับปรัชญา และ ยุทธศาสตร์ขององค์กรนั้น ๆ ก่อน จึงจะสามารถสานต่อไปสู่ความสำเร็จได้

เช่น ระบบประเมินบุคลากรของบริษัท Google จะเหมาะสมกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตอย่างมีเสถียรภาพได้อย่างไร องค์กรสองประเภทนี้มีระดับความรวดเร็วในการดำเนินธุรกิจซึ่งผู้บริโภคคาดหวัง รวมทั้งลักษณะ Competency (สมรรถนะการทำงาน) ของพนักงานที่แตกต่างกัน ดังนั้น ต่อให้เลียนแบบไป ก็คงไม่ก่อให้เกิดผลดีนัก ประเด็นนี้น่าจะเป็นที่ประจักษ์โดยไม่ต้องอธิบาย

ในยุค 90 องค์กรหลายแห่งในญี่ปุ่นได้นำระบบการทำงานซึ่งเน้นด้านการสร้างผลงานแบบอเมริกาเข้ามาใช้ แต่องค์กรส่วนใหญ่ประสบกับความล้มเหลว เนื่องจากวิธีการทำงานในอเมริกาไม่ตรงกับลักษณะนิสัย และ วิธีการคิดของคนญี่ปุ่น จากประสบการณ์ความล้มเหลวในครั้งนั้น แต่ละบริษัทจึงหาทางปรับปรุงจนเกิดระบบการทำงานซึ่งมีการรักษาสมดุลระหว่างค่าตอบแทนที่คำนวณจากทักษะของพนักงาน และ ค่าตอบแทนจากผลงานที่พนักงานสร้างขึ้น หรือ จะเรียกว่าเป็นระบบที่มุ่งเน้นผลงานสไตล์ญี่ปุ่นก็ว่าได้

บริษัท Asian Identity นั้นทำธุรกิจในอาเซียนโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศไทย ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนต่างก็มีวัฒนธรรม หรือ ธรรมเนียมของตน แม้พวกเราทุกคนจะเรียนรู้ถึงเรื่องราวการประสบความสำเร็จขององค์กรต่าง ๆ มาจากสถาบันการศึกษาด้านธุรกิจ แต่ถ้านำเอาสิ่งเหล่านี้เข้ามาใช้เองโดยละเลยบริบทด้านวัฒนธรรมข้างต้น ก็มักจะไม่ได้ผลตามที่คิด แต่ทว่า ปัจจุบันผมก็ยังพบเห็นกรณีข้างต้นอยู่มากพอควร

การเรียนรู้ทฤษฎี และ สิ่งที่บริษัทอื่นทำแล้วประสบความสำเร็จนั้นมีความสำคัญ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้นั้นเป็นเพียงแค่ “ทางเลือก” เท่านั้น หากจะปรับเปลี่ยนทางเลือกเหล่านั้นให้เหมาะสมกับบริษัทของตน เราก็จำเป็นต้องมี “ความสามารถในการวิเคราะห์ และ ตัดสินใจ”

อะไรคือเป้าหมายของบริษัทของเรา? อะไรคือลักษณะเด่นของวัฒนธรรมองค์กรของเรา? จุดแข็ง และ จุดอ่อนของพนักงานบริษัทเราคืออะไร? เราจำเป็นต้อง “วิเคราะห์” สิ่งเหล่านี้ให้ได้ก่อน จึงจะสามารถเลือกสรรนโยบายการทำงานที่เหมาะสมกับบริษัทของตนเองจากทางเลือกต่าง ๆ ได้

ผมตั้งใจว่าจะใช้ Blog นี้ในการบอกเล่าสิ่งที่ที่ปรึกษาของบริษัทแห่งนี้ตระหนักว่ามีความสำคัญ หรือ ข้อคิดซึ่งได้จากการปฏิบัติงานที่ปรึกษา ผมหวังว่าเนื้อหาความรู้เหล่านี้จะให้แง่คิดเพิ่มเติมสำหรับใช้ในการวิเคราะห์องค์กรของท่านเอง นอกจากนี้ ผมก็อยากใช้พื้นที่นี้ในการส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัทของเรา ผมหวังว่า Asian Identity จะเป็นคนคุ้นเคยสำหรับทุกท่านครับ

ขอฝาก HR EGG ไว้ในใจทุกท่านด้วยครับ!

——————-

> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe

> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact

 

[content_block id=1898 title=yes title_tag=h3]