HR Blog
บทความ Harvard Business Review ‘Quiet Quitting Is About Bad Bosses, Not Bad Employees’ โดย Jack Zenger และ Joseph Folkman กล่าวถึงปรากฏการณ์ทางสังคมที่กำลังเกิดขึ้นในที่ทำงานหลาย ๆ แห่ง คือ “Quiet Quitting” โดยชี้ให้เห็นว่า สาเหตุของการ Quiet Quitting นั้นแท้จริงเกิดจากการขาดความเชื่อมั่น (trust) ระหว่างระดับพนักงานกับระดับบริหาร และยกผลการวิจัยที่บ่งบอกว่าปัญหาการลาออกดังกล่าวนั้นมักจะเกิดในบริษัทที่ผู้จัดการ (manager) ไม่สามารถคงความสมดุลระหว่างผลลัพธ์ทางธุรกิจและความสัมพันธ์กับคนในทีมได้
กล่าวโดยสรุป การที่พนักงานลาออกนั้น สาเหตุหนึ่ง—และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุหลัก—คือ ความรู้สึกเชิงลบที่มีต่อผู้จัดการของตน เช่น ทำงานไปโดยที่รู้สึกไม่ได้รับความสำคัญ หรือลาออกเพราะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้จัดการ เป็นต้น ดังนั้นบทความจึงเสนอให้ผู้จัดการหรือระดับบริหารกลับมาพิจารณารูปแบบการบริหารทีมหรือองค์กรของตนเอง ทบทวนว่าระดับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานที่มีต่อองค์กรนั้นมีมากเพียงใด
ประเด็นหนึ่งที่ผู้เขียนสังเกตเห็นและรู้สึกสนใจขึ้นมา คือ การใช้คีย์เวิร์ดที่สื่อถึง “การมองเห็น (looking)” หลายแห่งในบทความ อันที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะประเด็นเรื่องการมอง รวมไปถึงการถูกมอง กับความสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ได้รับการศึกษาและเป็นที่ถกเถียงมาโดยตลอดในขอบฟ้าวิชาการจิตวิทยาและจิตวิเคราะห์
ในหลาย ๆ ครั้ง ความรู้สึกปลอดภัยหรือความรู้สึกได้รับการยอมรับ เกิดขึ้นจากความรู้สึกว่าตนอยู่ใน “สายตา” ของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการมองในเชิงกายภาพหรือในเชิงจิตใจ พนักงานจะรู้สึกได้ถึงคุณค่าของตนในที่ทำงานก็ต่อเมื่อตัวตนของเขาอยู่ในการรับรู้ อยู่ใน “สายตา” ของเพื่อนร่วมงานและโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเจ้านายของตนเอง การมองอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาจึงเป็นกุญแจดอกแรกของการสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นในที่ทำงาน เมื่อนั้นความเชื่อใจก็จะเกิดขึ้นตามมาและ ท้ายสุด วัฒนธรรมการให้ความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ (constructive feedback) ก็จะสามารถหยั่งรากลงในองค์กรได้

อีกประเด็นที่น่าขบคิด คือ ในฐานะผู้จัดการหรือฝ่ายบริหาร เรากล้าที่จะมองบาดแผลของเราโดยตรงหรือไม่ การมองบาดแผลในที่นี้คือการยอมรับข้อบกพร่อง เช่น ความอ่อนแอของระบบบุคคลในองค์กร นิสัยไม่พึงประสงค์ของหัวหน้าหรือการบริหารที่ผิดพลาด เป็นต้น ไม่เพียงแต่การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยและมีคุณค่า เพราะรู้สึกว่าตนได้รับการมองเห็นแล้ว การกล้าเผชิญหน้าและยอมรับว่าตนเอง ในฐานะหัวหน้าเองก็มีส่วนบกพร่อง การมองกลับมาที่ตนเองอย่างซื่อตรงก็เป็นกุญแจอีกหนึ่งดอกของการสร้างความมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นภายในองค์กร
น่าสนใจว่า รูปภาพประกอบบทความนั้นก็เป็นรูปการมองเช่นเดียวกัน (คือรูปผู้ชายยกมือซ้ายปิดตา มองมาข้างหน้าด้วยตาเพียงข้างเดียว) ทำให้ผู้เขียนนึกถึงข้อเสนอของ Osamu Kitayama นักจิตวิเคราะห์ชาวญี่ปุ่น ที่เสนอว่า ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า 見る (to look) เป็นคำพ้องเสียงกับ 診る (to diagnose) และ 見にくい (hard to see) เป็นคำพ้องเสียงกับ 醜い (ugliness) นั่นหมายความว่า เพื่อที่จะวิเคราะห์อาการป่วยได้อย่างถูกต้อง จิตแพทย์ต้องกล้าที่จะมองผู้ป่วย (จิตเวช) โดยตรง โดยไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวหรือตกใจ และจะทำเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อจิตแพทย์กล้าที่จะยอมมองบาดแผล (ทางใจ) ของตนเอง บาดแผลของผู้ป่วย รวมไปถึงข้อจำกัดของตน โดยตรง และถ้าหากยังไม่สามารถที่จะระบุถึงบาดแผลของผู้ป่วยได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าจิตแพทย์คนนั้นยังไม่กล้าที่จะมองความอัปลักษณ์ของผู้ป่วยหรือของตนได้อย่างตรงไปตรงมา
โลกธุรกิจก็เช่นเดียวกัน ในฐานะผู้บริหาร ในฐานะฝ่ายบุคคล เรากล้าที่จะมองและยอมรับความบกพร่อง ความอ่อนแอของโครงสร้างองค์กรของตนได้หรือไม่ เรากล้าที่จะมองไปที่บาดแผลหรืออารมณ์เชิงลบของพนักงานในองค์กรหรือไม่ หากทำได้ การมองด้วยสายตาที่ไร้สิ่งบดบัง (くもり限りで見定める。to see with the eyes unclouded.[1]) น่าจะเป็นบันไดขั้นแรกที่มั่นคงที่สุดของการแก้ไขปัญหา ไม่เพียงแต่ Quiet Quitting แต่รวมไปถึงปัญหาด้านทรัพยากรบุคคลอื่น ๆ ในองค์กรด้วย
ความสัมพันธ์อันดีและความมีส่วนร่วมของคนในองค์กรจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุก ๆ คนไม่ถูกละทิ้งให้อยู่นอกสายตา แต่เมื่อทุก ๆ คนในองค์กรมองเห็นและท้ายสุด ยอมมองซึ่งกันและกันอย่างซื่อตรงที่สุด
ขอบคุณครับ (●♡∀♡)
[1](もののけ姫 The Princess Mononoke, Hayao Miyazaki, 1997)
“Quiet Quitting Is About Bad Bosses, Not Bad Employees.” Harvard Business Review, 31 August 2022, https://hbr.org/2022/08/quiet-quitting-is-about-bad-bosses-not-bad-employees. Accessed 28 November 2022.
Kitayama, O. (2005). Chapter 6. Prohibition against Looking: Analysis of Japanese Mythology and Folktales. In S. Chang, M. Nishizono & W. Tseng (Ed.), Asian Culture and Psychotherapy: Implications for East and West (pp. 85-97). Honolulu: University of Hawaii Press. https://doi.org/10.1515/9780824873868-007
Credit: Photo by Kelvin Valerio from Pexels
[content_block id=1898]