HR Blog
“การคุกคามเชิงอำนาจ” หรือ “การล่วงละเมิดทางอำนาจ” (Power Harassment) เป็นสิ่งที่แอบแฝงอยู่ภายในสภาพแวดล้อมการทำงานของเราได้อย่างแยบยล จนบางครั้งอาจส่งผลให้เราเผลอมองข้ามโดยไม่ได้ตระหนักว่าสิ่งนี้เป็นพิษร้ายแรงที่ค่อย ๆ แพร่กระจายและกัดกินไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ชื่อว่า “องค์กร” ฤทธิของพิษร้ายนี้จะนำมาซึ่งสภาวะเครียดและกดดันของพนักงานภายในองค์กร บั่นทอนแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน สร้างผลกระทบต่อจิตใจของสมาชิกในองค์กรแต่ละคน เป็นบ่อนทำลายวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรในภาพรวม ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพกาย และอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าในผู้ถูกกระทำจนนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้อีกด้วย ดังนั้นการควบคุมดูแลไม่ให้พิษร้ายนี้ลุกลาม กัดกิน และทำลายองค์กรจากภายใน จึงเป็นความท้าทายที่ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง จำเป็นจะต้องตระหนักรู้และดำเนินการวางแนวทางหรือมาตรการรับมือที่เหมาะสม
กล่าวโดยง่ายคือ การคุกคามด้วยอำนาจจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลที่อยู่ในจุดยืนที่มีอำนาจ บังคับใช้อำนาจของตนไปในทางที่ผิด ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการกลั่นแกล้งกันโดยตรง และอาจจะมีลักษณะในเชิงการใช้อำนาจแบบซ่อนเร้นได้ เช่น
มาถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายท่านอาจจะเริ่มเล็งเห็นแล้วว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ “การคุกคามเชิงอำนาจ” ย่อมต้องเป็นตัวของ “อำนาจ” นั่นเอง ซึ่งจากตัวอย่างในข้างต้นเราคงได้เห็นแล้วว่าอำนาจที่ถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ นั้นมีรูปแบบอันหลากหลาย ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน และเฝ้าระวังได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ผมจึงอยากจะพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับอำนาจที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยในองค์กรกันสักหน่อยครับ

อะไรคือ “อำนาจ” ภายในองค์กร ?
“อำนาจภายในองค์กร” ในที่นี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
แม้ว่าดูเหมือนอำนาจที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่ควบคุมและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเป็นประโยชน์ แต่จุดที่เป็นข้อกังวลที่แท้จริงคือเรามักจะเผลอใช้อำนาจเหล่านี้มากเกินไปจนกลายเป็น “การคุกคามเชิงอำนาจ” โดย “ไม่รู้ตัว” หรือรู้สึกว่า “เป็นเรื่องธรรมดา” ไปเสียอย่างนั้น แม้แต่ผู้มีอำนาจที่มีเจตนาดีและดูเหมือนไม่เป็นภัยแต่ก็ยังสามารถมีพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้างอย่างใหญ่หลวงได้ ดังนั้นผู้เขียนจึงขอนำเสนอพฤติกรรมการใช้อำนาจของบุคลากรภายในองค์กรที่ควรเฝ้าระวังดังนี้
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการกระทำข้างต้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีในทุกกรณี แต่อาจจะเป็นเพียงพฤติกรรมที่เราจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเราตัดสินใจที่จะลงมือทำครับ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเราต้องมีความตระหนักรู้ในตนเอง คอยสะท้อนย้อนคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมการแสดงออกของตนเองในมุมมองภาพกว้างมากขึ้น มองให้เห็นว่าพฤติกรรมของเราอาจะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่างไรได้บ้าง สิ่งนี้จะช่วยให้เราสามารถลดทอนผลกระทบของการใช้อำนาจจากระดับปัจเจกบุคคลได้มากขึ้น
ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม “การคุกคามเชิงอำนาจ” เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องตระหนักรู้และเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายแรงต่อทั้งตัวบุคคลและองค์กร เช่น ปัญหาทางด้านจิตใจของผู้ถูกกระทำ ขวัญกำลังใจโดยรวมของสมาชิกในองค์กรที่ลดลง อัตราการลาออกจากงานที่เพิ่มขึ้น ฯลฯ การกำหนดนโยบายที่ชัดเจน การสื่อสารที่เปิดกว้าง การฝึกอบรมพัฒนาทักษะและความตระหนักรู้ในตนเอง จะส่งผลให้คุณสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ทุกคนรู้สึกได้รับความเคารพและมีคุณค่าได้
สำหรับตัวผู้เขียนเองมองว่าการเป็นผู้นำหรือผู้ที่มีอำนาจในองค์กรที่ดีนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การใช้อำนาจเข้าบีบบังคับเพื่อให้ทุกคนในองค์กรสำเร็จตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ แต่หมายถึงการช่วยผลักดันให้ทุกคนในองค์กรเติบโตจนสามารถที่จะสร้างความสำเร็จได้อย่างภาคภูมิใจไปด้วยกันต่างหาก
อ้างอิง
30 พ.ย., 2020
HR Blog การพัฒนาตนเองเพื่อเป็นผู้นำ
27 ส.ค., 2024
HR Blog Decoding Gen Z: The Secret Sauce to Effective Feedback
06 พ.ย., 2019
HR Blog Performance Management ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากธุรกิจไอดอล