HR Blog
ช่วงนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับหัวข้อของการสื่อสารอยู่บ่อยครั้ง เลยอยากเอามาเล่าให้ฟังค่ะ เคยไหมคะ เวลาเราสื่อสารอะไรกับใครสักคน ถึงแม้เรา และคู่สนทนาจะพูดดี อธิบายชัดขนาดไหน หรือถึงแม้เราจะตั้งใจฟังขนาดไหน ก็ยังเข้าใจไม่ตรงกันซักที บางทีความสามารถในการสื่อสารโดยเฉพาะการรับฟังของเราอาจจะถูกบั่นทอนโดยเจ้าสมองจอมขี้เกียจของเราก็ได้
มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกันในการสื่อสาร หนึ่งในนั้นก็คือสมองของเราที่ชอบใช้ทางลัด
ถ้าเจองานเยอะ อะไรที่ทำให้งานเสร็จโดยใช้แรงน้อยที่สุด เราก็มักจะทำ สมองเราก็เหมือนกันค่ะ เพื่อต่อกรกับสิ่งเร้าต่างๆที่เราเจอตลอดเวลา สมองของเราจึงทำงานในโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งก็คือ การทำงานโดยใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเหตุนี้ สมองเราจึงชอบใช้ทางลัดทางด้านความคิดในการประมวลข้อมูลใหม่ที่ได้รับมา (mental shortcuts)
แล้วเจ้าทางลัดนี้มาจากไหนกันนะ
ทางลัดทางด้านความคิดมาจากการที่สมองของเราขุดข้อมูลเก่าที่เรามีอยู่แล้วมาเป็นฐานในการประมวลข้อมูลใหม่ที่ได้รับ ซึ่งข้อมูลเก่าอาจจะมาจากประสบการณ์ที่เราเคยพบเจอ หรือเป็นข้อมูลที่เราเคยได้รับมาจากแหล่งต่างๆ โดยเจ้าสมองจะทำการหาความเหมือนระหว่างข้อมูลเก่าและข้อมูลใหม่ และจับมันเข้าด้วยกัน ถ้าสมองเราเห็นว่าข้อมูลหรือเหตุการณ์ใหม่ ถึงแม้จะแค่บางส่วน คล้ายกับสิ่งที่เราเคยเจอมา มันก็จะมีโอกาสที่เราจะคิดว่าสองเหตุการณ์มันเหมือนกัน และตัดสินใจจากข้อสันนิษฐานนั้น ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมคนเราถึงมีการตอบสนองที่แตกต่างกัน หรือตีความในสารต่างกันออกไปถึงแม้จะได้รับสารนั้นพร้อมกันหรือในรูปแบบเดียวกันก็ตาม
เพราะความชอบใช้ทางลัดของสมอง พอเราเจออะไรใหม่ๆ เจ้าสมองก็จะประมวลข้อมูลเพียงบางส่วนเพื่อเป็นหลักสำหรับการพิจารณาหรือตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ความเร็วมันก็ดีค่ะ แต่มันก็เป็นบ่อเกิดของการตีความในสารไม่ตรงกันเช่นกัน หนึ่งในทางลัดที่เป็นสาเหตุแห่งความเข้าใจไม่ตรงกันที่อยากจะแนะนำให้รู้จักคือ Confirmation bias หรือ ความลำเอียงเพื่อยืนยันนั่นเอง
มนุษย์เรา เวลาคิดหรือเชื่ออะไรแล้ว มันก็ยากที่จะเปลี่ยนความคิดนั้น Confirmation bias คือการที่เราหาข้อมูลหรือพยายามตีความเข้าข้างความคิดของตัวเอง ยกตัวอย่างในที่ทำงาน เช่น ถ้าหัวหน้าเชื่อว่าลูกน้องทำงานไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว เวลาเกิดปัญหาหรือลูกน้องมาหาเพื่อขอคำแนะนำ เค้าก็จะคิดไปก่อนแล้วว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะลูกน้องไร้ความสามารถ และก็จะพยายามหาข้อมูลจากเรื่องที่ลูกน้องเล่าเพื่อยืนยันความเชื่อนี้ ความลำเอียงทางความคิดนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในที่ทำงานได้ อย่างในกรณีที่ยกมา ถ้าหัวหน้ายังคิดว่าปัญหาเกิดมาจากลูกน้องอย่างเดียว ทั้งๆที่มันอาจจะมาจากสาเหตุอื่นก็ได้และไม่เข้าใจลูกน้องบ่อยเข้า ลูกน้องก็ไม่อยากจะบอกหรือปรึกษาอะไรกับหัวหน้าอีกต่อไป ปัญหานี้จะนำไปสู่วัฒนธรรมที่ลูกน้องไม่สื่อสารกับหัวหน้า ซึ่งเป็นผลร้ายต่อองค์กรโดยรวม
ความลำเอียงนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในทางลัดที่สมองเราสร้างขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ที่ทำให้ความสามารถในการตีความสารที่ได้รับมา และความสามารถในการรับฟังเราน้อยลง เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ในฐานะผู้ฟัง หรือคนรับสาร เราควรตระหนักถึงปัญหา และปัจจัยต่างๆที่สามารถทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพื่อที่จะได้เฝ้าระวังไม่ให้เราทำสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว และรับฟังข้อความทั้งหมดของผู้พูดอย่างตั้งใจ เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ
——————-
> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe
> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact
Credit: รูปถ่ายโดย Jesse Orrico จากเว็บ Unsplash
[content_block id=1898 title=yes title_tag=h3]
24 ก.พ., 2023
HR Blog ฟีดแบคอย่างสร้างสรรค์ และสำเร็จ (Successful Constructive Feedback)
27 ส.ค., 2024
HR Blog Decoding Gen Z: The Secret Sauce to Effective Feedback
11 มิ.ย., 2021
HR Blog 3 กิจกรรมง่าย ๆ เรียกพลังก่อนประชุมออนไลน์