Newsletter
สำหรับจดหมายข่าวฉบับที่ 52 นี้ ขอเสนอประเด็น “ความสัมพันธ์ภายในองค์กร”
ระยะหลังมานี้ ประเด็นเรื่อง “การลาออกของพนักงานเพิ่มมากขึ้น” กำลังเป็นที่พูดถึงกันทั่วโลก
ประเด็นดังกล่าวอาจมีเหตุผลมาจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่าง กระแสค่านิยม YOLO (You Only Live One) หรือ “เรามีชีวิตอยู่แค่ครั้งเดียว” และการทำงานจากที่บ้าน (Working from home) ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและพนักงานนั้นห่างเหินกันมากขึ้น ความจริงแล้ว ที่บริษัทผมเองก็มีเคสที่เข้ามาปรึกษาเรื่องการลดอัตราการลาออกจากงานเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิด-19เยอะเลยครับ
ผมคิดว่ามันก็เหมือนกับรักทางไกล (Long distance relationship) แหละครับ คนเรา พอไม่ได้เห็นหน้ากันบ่อย ๆ ความรู้สึกที่มีต่อกันมันก็จืดจางลง ความจงรักภักดี (loyalty) ของพนักงานที่มีต่อบริษัทมันก็เปราะบางลงไปโดยที่เราไม่รู้ตัว และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่กำลังเกิดกับทุกที่ ดังนั้น จดหมายข่าวในครั้งนี้ ผมจึงอยากหยิบยกเรื่อง “การฟื้นคืนความสัมพันธ์ภายในองค์กร” มาพูดคุยครับ

“เมื่อความสัมพันธ์ถดถอย ปัญหาอะไรจะเกิดขึ้น?”
อันดับแรกเลย เรามาลองคิดกันครับว่าทำไมความสัมพันธ์ที่เปราะบางมันถึงกลายเป็นปัญหา ถ้าผมพูดว่า “การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ” บางคนก็คงเห็นด้วยใช่มั้ยครับ แต่ในทางกลับกัน ถ้าจะให้พูดออกไปเลยว่า “การติดต่อสื่อสารที่ดีจะช่วยยกระดับผลงาน” มันก็ฟังดูพูดยากใช่มั้ยครับ เพราะการสื่อสารเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะโดนปัดไปไว้ข้างหลังเสมอ
แผนภาพ “วงจรแห่งความสำเร็จ” อธิบายความสำคัญของความสัมพันธ์ภายในองค์กรไว้ว่า ความสัมพันธ์ภายในองค์กรคือ รากฐานสำคัญในการประสบความสำเร็จของบริษัท

credit: image from thesystemsthinker
ถ้าความสัมพันธ์ภายในองค์กรไม่เข้มแข็ง ความคิดเรื่อง “การโยนความผิด” หรือการโทษคนอื่นก็จะเกิดขึ้นครับ และเมื่อพบปัญหา ผู้คนก็จะเริ่มจากการตั้งคำถามว่า “เพราะเป็นความผิดของ…..รึเปล่า” ซึ่งเมื่อมีความก้าวร้าวและการโจมตีกันเกิดขึ้นในการสื่อสาร แนวโน้มที่ทุกคนจะยอมแพ้และปล่อยปัญหาทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแลก็จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อเป็นเช่นนี้ นอกจากปัญหาจะไม่ถูกแก้ไข มันยังจะส่งผลให้บรรยากาศเชิงลบในการทำงานแพร่กระจาย และก่อให้เกิดเป็นวงจรอุบาทว์ทางการสื่อสารภายในองค์กรอีกด้วยครับ
ในทางกลับกัน ถ้าเราสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กรไว้ได้ ถึงแม้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้น แต่คนภายในองค์กรก็จะพูดคุยปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วครับ หากทุกคนมีความตั้งใจร่วมด้วยช่วยกันคิดหาวิธีการแก้ปัญหาแล้ว ก็จะทำให้สามารถคิดวิธีการแก้ไขปัญหาที่นำไปปฏิบัติได้จริงครับ และเมื่อได้วิธีจัดการปัญหาที่เหมาะสมแล้ว พนักงานก็จะไม่รู้สึกห่างเหินกัน อีกทั้งผลลัพธ์ในการดำเนินธุรกิจก็จะดีขึ้นกลายเป็นวงจรประเสริฐนั่นเองครับ
ตอนนี้องค์กรของทุกท่านอยู่ในวงจรอุบาทว์หรือวงจรประเสริฐกันหรือครับ? จุดต่างของทั้งสองวงจรอาจจะอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกันเองก็ได้นะครับ

“การรู้จักกันและกัน” ให้มากขึ้น จะช่วยกระชับความสัมพันธ์
ถ้าอย่างนั้นแล้วเราจะกระชับความสัมพันธ์อย่างไรดี ? ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ล่ะก็ ให้เรา “ทำความรู้จักกัน” ให้มากขึ้นครับ
ถึงแม้ว่าพวกเราจะทำงานด้วยกัน แต่ก็มีหลายเรื่องที่พวกเราไม่รู้เกี่ยวกับกันและกันครับ “การรู้จักกัน” จะทำให้เรารู้สึก “รักกัน” มากขึ้น และถ้าทุกคนรักกันแล้ว มันก็จะสามารถสานต่อไปถึงการสร้างความเชื่อมั่นและการสร้างทีมเวิร์คที่ดีได้ครับ
การรู้จักกันก็เหมือนภาพภูเขาน้ำแข็งรูปนี้ครับ ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ภายใต้แผ่นน้ำแข็งหรือส่วนที่ตามองไม่เห็นนั้นก็คือเรื่องที่ปกติมักจะไม่ค่อยถูกพูดถึงแต่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เช่น ความหมายในการทำงาน ความฝันในอนาคต หรือเหตุผลในการทำงานปัจจุบัน

เมื่อวันก่อน ผมได้จัดกิจกรรมที่ให้ทุกคนแบ่งปันความคิดหรือสิ่งที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งขึ้นที่บริษัทแห่งหนึ่ง และก็ได้เห็นความคิดต่าง ๆ มากมายเลยครับ เช่น
“ทำงานด้วยกันมาก็ตั้งนาน ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีความคิดแบบนี้ด้วย”
“เพิ่งมารู้สึกเลยว่าปกติแล้วพวกเราคุยกันแค่เรื่องงานที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น”
“หากมีกิจกรรมแบบนี้เร็วกว่านี้บางคนอาจไม่ต้องลาออก”
จากความเห็นเหล่านี้ผมรู้สึกได้ถึงความโหยหาการสื่อสารแบบบทสนทนาเชิงลึก (Deep conversation) ของหมู่พนักงาน และตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารในรูปแบบนี้อีกครั้ง
พวกเราเรียกกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สนทนากันอย่างจริงจังเช่นนี้ว่า การรีทรีต (Retreat) ครับ เดิมทีคำนี้เป็นคำศัพท์ทางการทหารที่หมายถึง “การถอยทัพชั่วคราว” เป็นการออกจากพื้นที่สงครามมาเล็กน้อย เป็นโอกาสให้พักหายใจและพูดคุยกันครับ
เรื่องที่พวกเราควรทำในตอนนี้ ในสถานการณ์ที่การเดินทางระหว่างไทย-ญี่ปุ่นกลับมาเปิดอีกครั้ง เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก อาจจะเป็นการรีทรีต หรือการถอยทัพชั่วคราวก็ได้ เราลองกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ภายในองค์กรด้วยบทสนทนาเชิงลึก (Deep conversation) กันดีมั้ยครับ ผมเชื่อว่ามันจะช่วยให้ธุรกิจของเราฟื้นตัวและพัฒนาต่อไปได้อีกก้าว
ผมขอจบจดหมายข่าวฉบับนี้ไว้เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ
*ฉบับภาษาญี่ปุ่นอยู่ตรงนี้ครับ ถ้าเป็นไปได้ ขอให้คุณผู้อ่านแชร์จดหมายข่าวนี้ให้แก่เพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นด้วยครับ
https://asian-identity.com/hr-egg-jp/newsletter/oct-2022
Credit
Picture by Thirman from Pexels
Picture by Yan Krukov from Pexels
Picture by fauxels from Pexels
[content_block id=1898]
13 มี.ค., 2024
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.57 สัมภาษณ์กับ HR Consultant : คุณชยพลจาก Asian Identity – MAR, 2024
24 ก.ค., 2019
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.17 ปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรในไทยอย่างท้าทายด้วย การ “Visualization” – AUGUST , 2018
12 ก.ย., 2019
Newsletter AI NEWSLETTER Vol.27 Asian Identity ครบรอบ 5 ปีแห่งการก่อตั้ง – AUGUST , 2019