HOME > Articles > AI NEWSLETTER Vol.55 “ขบคิดเรื่องความเป็นผู้นำสไตล์เอเชีย ตอนที่ 2 ผู้นำที่เดินทางสายกลาง” – JUL, 2023
Newsletter

AI NEWSLETTER Vol.55 “ขบคิดเรื่องความเป็นผู้นำสไตล์เอเชีย ตอนที่ 2 ผู้นำที่เดินทางสายกลาง” – JUL, 2023

10 ก.ค..2023

สำหรับ AI Newsletter ฉบับที่ 55 นี้ ผมอยากจะชวนทุกท่านคุยต่อจากครั้งแล้ว ที่เราพูดถึงเรื่อง “ความเป็นผู้นำในแบบเอเชีย” กันครับ

“ขบคิดเรื่องความเป็นผู้นำสไตล์เอเชีย ตอนที่ 2 ผู้นำที่เดินทางสายกลาง”


การเดินทางสายกลางคืออะไร?
คีย์เวิร์ดในครั้งนี้คือคำว่า “ทางสายกลาง”

ทางสายกลางเป็นคำที่ปรากฏอยู่ใน “หลุน-อวี่” คัมภีร์พื้นฐานของสำนักปรัชญาขงจื้อ ซึ่งเขียนคำอธิบายไว้ดังนี้

“ทางสายกลาง คือ ทางสู่ปัญญาซึ่งจะทำให้บุคคลมองเห็นสรรพสิ่งตามความเป็นจริง”

(การเดินทางสายกลาง คือ ศีลธรรมหรือคุณงามความดีอันสูงสุด)

ทางสายกลางหมายถึง ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป กำลังดี คือการเป็นคนที่มีศีลธรรมสูงสุด

ถังที่เห็นในภาพถูกขึงไว้ด้วยโซ่ สามารถแกว่งโคลงเคลงได้

ถ้าในถังไม่มีน้ำ ถังก็ไม่สามารถตั้งตรงได้ ในทางกลับกัน ถ้าใส่น้ำมากไป ถังก็จะเอียงเช่นกัน ต้องใส่น้ำให้พอดีเท่านั้น ถังถึงจะตั้งตรงได้

สำนักขงจื้อใช้เรื่องนี้ในการอธิบายความสำคัญของความสมดุล “คนฉลาดที่สามารถรู้เท่าทันความเขลาของตนเองนั้น จะยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนแม้จะประสบความสำเร็จ มีความกล้าหาญแต่ไม่ลืมความหวาดกลัว และถึงจะร่ำรวยก็จะไม่หยิ่งผยอง”

ผมขอยกเรื่อง “ถังใส่น้ำ” มาอธิบาย “ความกำลังดี” ดังนี้ครับ


ผู้นำที่ “เดินทางสายกลาง”
ตอนที่เราจัดสัมมนาก่อนหน้านี้ มีพนักงานระดับหัวหน้าท่านหนึ่งได้เล่าถึงความกังวลใจของตนให้ฟังดังนี้

“ถ้าเข้มงวดกับลูกน้องที่ไทยมากเกินไป พวกเขาก็มักจะลาออก ผมเลยปรับตัว แต่พอใจดีมากเกินไป ไม่ค่อยให้งาน พวกเขาก็ลาออกอยู่ดี การหาจุดกึ่งกลางระหว่างความเข้มงวดกับความใจดีนี่ยากมากเลยครับ”

จริงๆ แล้ว หัวหน้างานหลายๆ ท่านก็คงประสบปัญหาเดียวกันสินะครับ

ผมคิดว่าทางแก้ไขที่เหมาะสมสำหรับเรื่องนี้คือ “ทางสายกลาง”

การบอกให้เดินทางสายกลางในที่นี้ ไม่ใช่ “การทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ” แต่ผมหมายถึงการเป็นคนที่ “แม้จะเข้มงวดแต่ก็ใจดี” กล่าวคือ ให้ความสำคัญกับทั้งสองเรื่อง

เราไม่ต้องเลือกว่า “จะเข้มงวด” หรือ “จะใจดี” การคิดจะเลือกเป็นการเริ่มต้นที่ผิดแต่แรก สองประเด็นนี้เป็นเรื่องที่อยู่คนละหมวดหมู่กัน จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้

• “เข้มงวด” = การตั้งใจปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัทอย่างแข็งขัน

• “ใจดี” = การห่วงใยและใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนมนุษย์ การมีน้ำใจ

พอปรับมุมมองแบบนี้ จะเห็นได้ว่า เราไม่ต้องเลือกแค่ทางใดทางหนึ่ง


เราสามารถเข้มงวดและใจดีไปพร้อมๆ กันได้หรือ?
สมมติว่ามีพนักงานที่ไม่ทำตามกฎของบริษัท ถ้าเราไม่เข้มงวดกับเขา จะทำให้บริษัทเสียหาย จึงจำเป็นต้องประเมินการทำงานอย่างเข้มงวด แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องเย็นชาใส่เขา

ในทางกลับกัน เราควรรับฟังความเห็นของเจ้าตัวด้วยว่า ทำไมถึงไม่ทำตามกฎ การทำความเข้าใจการกระทำของผู้อื่นก็สำคัญเช่นกัน อย่าเพิ่งตัดสินว่า คนที่ไม่รักษากฎระเบียบของบริษัททุกคนเป็นคนไม่ดี ถ้าหากเขาทำผิดไปด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง เราควรเปิดใจรับฟังเรื่องราว โดยพยายามลองเอาใจเขามาใส่ใจเราและพิจารณาว่า “เรื่องราวมันดำเนินไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร” การพูดคุยและการเปิดใจรับฟังเป็นเรื่องสำคัญครับ

เมื่อตระหนักได้ตามที่กล่าวข้างต้น เราอาจจะไม่พูดจาโหดร้ายกับพนักงานคนดังกล่าวอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก

คนเรามักชอบตัดสินผู้อื่นว่า “พนักงานคนนี้ดี คนนั้นไม่ดี” แต่ว่ามนุษย์มีหลายด้าน มีตอนที่ดีก็มีตอนที่ไม่ดี ท่านผู้อ่านลองย้อนกลับมามองตัวเองดูนะครับ อาจจะพบว่า แม้เราจะมองว่าเราเป็นพนักงานที่ดี แต่จริงๆ แล้วก็มีตอนที่ไม่ดีเหมือนกัน มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาครับ

ดังนั้น คนที่เป็นหัวหน้าควรจะยึด “ทางสายกลาง” ไม่พยายามตัดสินใครเร็วเกินไป ถ้าเรามีอคติ เราจะไม่สามารถทำความรู้จักคนอื่นได้จริงๆ

ผมขอจบจดหมายข่าวฉบับนี้ไว้เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่าน

 

*ฉบับภาษาญี่ปุ่นอยู่ตรงนี้ครับ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นอ่านด้วยนะครับ!
https://asian-identity.com/hr-egg-jp/newsletter/jul-2023

*ข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สพัฒนาบุคลากรระดับผู้จัดการชาวไทยและญี่ปุ่นเชิญอ่านที่นี่
https://asian-identity.com/hr-egg-th/event

*คุณนากามุระ CEO บริษัท Asian Identity ออกหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับแนวคิดแบบเอเชีย กดอ่านรายละเอียดได้ที่นี่
Kinokuniya > https://thailand.kinokuniya.com/bw/9784866214498
Amazon > https://tinyurl.com/3wffbdkj 

 

Credit:
Photo by Maksim Goncharenok from Pexels
Photo by Tobi from Pexels
Photo by Free Walking Tour Salzburg from Unsplash

 

[content_block id=1898]