HOME > Articles > ความคิดสร้างสรรค์กับความกดดันจากเวลา
HR Blog

ความคิดสร้างสรรค์กับความกดดันจากเวลา

26 มิ.ย..2020

ในช่วงวิกฤติ Covid19 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลาย ๆ บริษัทคงจะรู้สึกถึงความกดดันที่ต้องปรับลักษณะธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการคิดประเภทสินค้าหรือเซอร์วิสใหม่ ๆ การปรับปรุงรูปแบบสินค้าที่มีอยู่แล้ว หรือการปรับปรุงกลยุทธ์การโฆษณาและการขาย และด้วยเหตุนี้ วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการจัดการความคิดสร้างสรรค์ (creativity) ที่จะเป็นอาวุธสำคัญให้บริษัทสามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ผู้อ่านเคยได้ยินบางคนบอกว่าตัวเขาทำงานได้ดีกว่าภายใต้ความกดดัน หรือแนวคิดที่ว่าความกดดันจากเวลาจะช่วยให้คนมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นมั้ยคะ ส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนคิดว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นซะทีเดียว

ในความคิดของผู้เขียน คำว่า ‘ทำงานได้ดี’ ภายใต้ความกดดัน ส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึงการที่คนคนหนึ่งสามารถทำงานได้ปริมาณเยอะในเวลาที่จำกัด (quantity) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่างานที่ออกมาจะมีคุณภาพ (quality) หรือความสร้างสรรค์เสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้ว คนที่โดนกดดันด้วยเวลามักจะให้ความสำคัญกับความรวดเร็วเป็นอันดับแรกและคำนึงถึงความเหมาะสมกับคุณภาพเป็นรอง

ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นจากการที่คนเรารวมหรือสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความคิดของตัวเองขึ้นมาเยอะ ๆ แล้วคัดเลือกเพียงบางความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ ไม่เคยมีมาก่อน และดูมีประโยชน์ออกมาเป็นแนวคิดใหม่ ฉะนั้น ยิ่งเรามีเวลาให้ค้นคว้าเพื่อเติมคลังความรู้ของเราและมีเวลาให้สำรวจความคิดที่อยู่ในหัวเรามากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะเจอคำตอบหรือแนวทางที่มีความสร้างสรรค์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

แต่แน่นอนว่าในความเป็นจริงแล้ว ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เรามักจะเจอกับงานด่วนอยู่เสมอ ยิ่งสถานการณ์ปัจุบันมีการแข่งขันสูงขึ้น บริษัทต่าง ๆ ก็อยากจะออกสินค้าใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด หากเป็นเช่นนี้แล้ว เราควรทำอย่างไรหากจำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ภายใต้ความกดดันจากเวลา

ผลการวิจัยของ Havard Business Review ได้ค้นพบว่าการมีสมาธิจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของเรา ฉะนั้น แทนที่เราจะสลับไปมาระหว่างงานหลักกับงานย่อยหลาย ๆ งาน เราควรกันเวลาไว้เพื่อทำงานหลักที่ต้องใช้ความคิดเพียงอย่างเดียว ซึ่งเวลาที่กันไว้อาจจะเป็นครึ่งเช้าหรือบ่ายภายในหนึ่งวันหรือหนึ่งถึงสองวันในหนึ่งอาทิตย์แล้วแต่ระยะเวลาที่มี ผู้เขียนแนะนำให้ลงตารางอย่างเป็นทางการและสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานให้ชัดเจนเพื่อที่คนอื่นจะได้รับรู้ว่าเรากำลังต้องการสมาธิ และเพื่อลดสิ่งรบกวนสมาธิอีกทางหนึ่ง เวลาต้องการปรึกษาเพื่อนร่วมงาน เราควรคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบหนึ่งต่อหนึ่งแทนการคุยกับหลาย ๆ คนพร้อมกัน เพราะการทำแบบนี้จะช่วยให้เราประมวลข้อมูลได้ง่ายขึ้นและป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนโดยไม่จำเป็น

สำหรับใครที่เป็นหัวหน้างาน เราสามารถช่วยจัดการความเหมาะสมในเรื่องภาระงาน (workload) หรืออนุญาตให้ลูกน้องที่ได้รับมอบหมายงานที่ต้องใช้ความคิดเยอะและมีความเร่งรีบได้หยุดงานอื่นไว้ก่อนเพื่อมามุ่งกับงานหลักโดยเฉพาะ นอกจากนี้ เราควรอธิบายถึงความสำคัญของงานที่ได้มอบหมายไปและบอกเหตุผลว่าทำไมถึงต้องรีบทำให้เสร็จ โดยผลการวิจัยพบว่าผลเสียต่อความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจากความกดดันทางเวลาจะลดลงเมื่อคนเรารู้สึกว่ากำลังทำภารกิจอยู่ (on a mission) และเข้าใจถึงความจำเป็นของข้อจำกัดทางเวลา

ผู้เขียนเชื่อว่าคำแนะนำข้างต้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อได้นำไปใช้จริง แต่อีกสิ่งหนึ่งที่จะลืมไปไม่ได้คือ เราต้องคำนึงว่าวัฒนธรรมองค์กรของเรานั้นส่งเสริมให้พนักงานมีอิสระทางความคิดหรือเปล่า เพราะถึงแม้เราจะมีเวลาและสมาธิหรือมีความคิดที่น่าทึ่งขนาดไหน ถ้าเราไม่กล้าที่จะบอกหรือถ้าบริษัทไม่รับฟัง ก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีไอเดีย ฉะนั้น ผู้บริหารระดับสูงในฝ่ายบริหารก็สามารถส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานได้โดยการ สร้างความรู้สึกปลอดภัยและป้องกันไม่ให้พนักงานเกิดความกลัวที่จะโดนจับผิดหรือคิดว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์เมื่อมีการประชุมหรือการระดมความคิด

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าความคิดและวิธีการทำงานของพนักงานทุกระดับสามารถส่งผลต่อความสำเร็จของบริษัทในด้านการพัฒนาธุรกิจ ตั้งแต่การเปลี่ยนวิธีทำงานเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการทำงานเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานเพื่อการพัฒนาและความก้าวหน้าของธุรกิจ

หวังว่าข้อมูลที่ผู้เขียนได้นำมาแชร์ในบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ

Link to Havard Business Review Research

——————-

> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe

> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact

 

Credit: Photo by Alice Dietrich from Unsplash

 

[content_block id=1898 title=yes title_tag=h3]