HR Blog
ต่อจากบทความที่แล้วที่เราพูดถึงการบริหารกับโชค ‘Management with Luck’ คำถามต่อมาคือ ถ้าเราอยากจะบริหารทีมโดยให้ “โชค” เป็นตัวช่วย เราควรจะเริ่มจัดการตัวเอง และจัดการความคิดของทีมของเราอย่างไรดีเพื่อช่วยตั้งสติให้รู้เท่าทันและบริหาร “โชค” ใน (หรือหลัง) วิกฤตได้
ก่อนอื่นเลย เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ มากระทบ เราสามารถยอมปล่อยให้รู้สึกแย่กับความโชคร้ายได้ จนกว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นจะเริ่มนิ่งลง จากนั้นต้องหา “กระจก” มาช่วยให้เรารับรู้ให้ได้ว่า ตอนนี้เราและทีมเรารู้สึกอะไรอยู่ ท้อกับอะไร ผิดหวัง ตกใจ กังวลกับอะไร เปิดให้รับรู้ร่วมกัน จากนั้นกอดใจของเราให้แน่นๆ แล้วเริ่มตั้งสติผ่านการช่วยกันหาคำอธิบายให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ปลุกสมองส่วนวิเคราะห์เหตุและผลมาทำงานกันค่ะ
วันนี้ผู้เขียนได้นำคำถามสามข้อง่าย ๆ จากแนวคิดของคุณ Martin Seligman มาดัดแปลงและลองทำเป็น “กระจก” สำหรับตั้งคำถามกับตนเอง (Interrogative Self-talk) เพื่อเปิดมุมมองและบริหารทีมให้มองเห็นโชคและโอกาสให้ได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ
คำถามที่ 1: “Is it permanent?”
“ปัญหาหรือเรื่องร้ายนี้ มันเป็นปัญหาไม่มีทางออก และจะเป็นอย่างงี้ตลอดไปใช่ไหม”
คำถามที่ 2: “Is it pervasive?”
“ปัญหาหรือเรื่องร้ายนี้ มันโดนกันหมดทุกคน เป็นกันหมดทุกคนทุกอย่างใช่ไหม”
คำถามที่ 3: “Is it personal?”
“ปัญหาหรือเรื่องร้ายนี้ มันเป็นเพราะฉัน แค่กับฉันคนเดียวใช่ไหม”
ตามแนวคิดของคุณ Martin Seligman นั้น เมื่อเราเจอวิกฤติแล้วเรารู้สึกแย่และท้อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราอาจจะเริ่มคิดว่าปัญหาที่เราเจอมันเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ (Permanent) ไม่มีทางหลีกเลี่ยง (Pervasive) และเพราะตัวเองล้วน ๆ (Personal) และเราจะเข้าสู่ลูปความโชคร้าย มองไม่เห็นทางออกของตนเอง
ในทางกลับกัน หากเราลองพยายามถามเหล่านี้กับตัวเองและหาคำตอบพร้อมหาเหตุผลมายันให้ได้ว่า “ไม่ใช่” สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เรื่องนี้ ตอนนี้เท่านั้น มันจัดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ (Temporary) มันไม่ใช่ทั้งหมด แค่เฉพาะบางคน บางอย่างที่โดนหรือที่เป็นอย่างงั้นเท่านั้น (Specific) สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกอย่างอื่นที่ควบคุมไม่ได้ด้วย (External) ยันกับคำถามสามข้อนี้ด้วยการหาเหตุผลที่หลักแหลมที่สุด หาช่องโหว่ที่มีเพื่อยืนกรานคำตอบว่า “ไม่ใช่” ของเราให้หนักแน่นที่สุด
(ในขั้นเริ่มต้น อาจจะลองแค่ 1/3 ข้อให้ได้ก่อนที่จะค่อย ๆ ขยายผลเป็น 3/3 ข้อดูนะคะ)
เมื่อสมองเราสามารถยืนกราน ยืนยันกับตัวเราเองได้แล้ว จิตใจเราจะเกิดความเชื่ออย่างเข้มแข็งว่าปัญหา หรือเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นที่ มันต้องมีทางจัดการได้ เราจะเริ่มเห็นวิกฤตข้างหน้าเราในขนาดที่เล็กลงอย่างไม่น่าเชื่อ และสมองเราจะเริ่มมีกำลังใจในการประมวลหาความเป็นไปได้ในการหาทางออก รวมถึงโอกาสที่มีในวิกฤตอยู่อีกครั้งหนึ่ง พลิกทีมจากทีมที่เจอ “โชคร้าย” ให้เป็นทีมที่มองเห็น “โชคดี” ในมือ
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า พวกเราทุกคนก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่ใช่ผู้วิเศษ ท้อได้ พักได้ ถอยมาตั้งหลักใหม่ได้ มาช่วยประคับประคองซึ่งกันและกันให้ลุกไปต่อด้วยกันนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกทีมที่กำลังฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันค่ะ
เราต้องรอดเพื่อจดจำ เรียนรู้ และช่วยกันผลักดันยุคใหม่หลังวิกฤติให้ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ
——————-
> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe
> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact
Credit: Photo by Miguel Á. Padriñán from Pexels
[content_block id=1898]