HOME > Articles > เปลี่ยนจากทีมที่ “โชคร้าย” เป็นทีมที่ “โชคดี”
HR Blog

เปลี่ยนจากทีมที่ “โชคร้าย” เป็นทีมที่ “โชคดี”

17 ก.ย..2021

ต่อจากบทความที่แล้วที่เราพูดถึงการบริหารกับโชค ‘Management with Luck’ คำถามต่อมาคือ ถ้าเราอยากจะบริหารทีมโดยให้ “โชค” เป็นตัวช่วย เราควรจะเริ่มจัดการตัวเอง และจัดการความคิดของทีมของเราอย่างไรดีเพื่อช่วยตั้งสติให้รู้เท่าทันและบริหาร “โชค” ใน (หรือหลัง) วิกฤตได้

ก่อนอื่นเลย เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ มากระทบ เราสามารถยอมปล่อยให้รู้สึกแย่กับความโชคร้ายได้ จนกว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นจะเริ่มนิ่งลง จากนั้นต้องหา “กระจก” มาช่วยให้เรารับรู้ให้ได้ว่า ตอนนี้เราและทีมเรารู้สึกอะไรอยู่ ท้อกับอะไร ผิดหวัง ตกใจ กังวลกับอะไร เปิดให้รับรู้ร่วมกัน จากนั้นกอดใจของเราให้แน่นๆ แล้วเริ่มตั้งสติผ่านการช่วยกันหาคำอธิบายให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ปลุกสมองส่วนวิเคราะห์เหตุและผลมาทำงานกันค่ะ

วันนี้ผู้เขียนได้นำคำถามสามข้อง่าย ๆ จากแนวคิดของคุณ Martin Seligman มาดัดแปลงและลองทำเป็น “กระจก” สำหรับตั้งคำถามกับตนเอง (Interrogative Self-talk) เพื่อเปิดมุมมองและบริหารทีมให้มองเห็นโชคและโอกาสให้ได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ

คำถามที่ 1: “Is it permanent?”

“ปัญหาหรือเรื่องร้ายนี้ มันเป็นปัญหาไม่มีทางออก และจะเป็นอย่างงี้ตลอดไปใช่ไหม”

คำถามที่ 2: “Is it pervasive?”

“ปัญหาหรือเรื่องร้ายนี้ มันโดนกันหมดทุกคน เป็นกันหมดทุกคนทุกอย่างใช่ไหม”

คำถามที่ 3: “Is it personal?”

“ปัญหาหรือเรื่องร้ายนี้ มันเป็นเพราะฉัน แค่กับฉันคนเดียวใช่ไหม”

ตามแนวคิดของคุณ Martin Seligman นั้น เมื่อเราเจอวิกฤติแล้วเรารู้สึกแย่และท้อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราอาจจะเริ่มคิดว่าปัญหาที่เราเจอมันเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ (Permanent) ไม่มีทางหลีกเลี่ยง (Pervasive) และเพราะตัวเองล้วน ๆ (Personal) และเราจะเข้าสู่ลูปความโชคร้าย มองไม่เห็นทางออกของตนเอง

ในทางกลับกัน หากเราลองพยายามถามเหล่านี้กับตัวเองและหาคำตอบพร้อมหาเหตุผลมายันให้ได้ว่า “ไม่ใช่” สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เรื่องนี้ ตอนนี้เท่านั้น มันจัดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ (Temporary) มันไม่ใช่ทั้งหมด แค่เฉพาะบางคน บางอย่างที่โดนหรือที่เป็นอย่างงั้นเท่านั้น (Specific) สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกอย่างอื่นที่ควบคุมไม่ได้ด้วย (External) ยันกับคำถามสามข้อนี้ด้วยการหาเหตุผลที่หลักแหลมที่สุด หาช่องโหว่ที่มีเพื่อยืนกรานคำตอบว่า “ไม่ใช่” ของเราให้หนักแน่นที่สุด

(ในขั้นเริ่มต้น อาจจะลองแค่ 1/3 ข้อให้ได้ก่อนที่จะค่อย ๆ ขยายผลเป็น 3/3 ข้อดูนะคะ)

เมื่อสมองเราสามารถยืนกราน ยืนยันกับตัวเราเองได้แล้ว จิตใจเราจะเกิดความเชื่ออย่างเข้มแข็งว่าปัญหา หรือเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นที่ มันต้องมีทางจัดการได้ เราจะเริ่มเห็นวิกฤตข้างหน้าเราในขนาดที่เล็กลงอย่างไม่น่าเชื่อ และสมองเราจะเริ่มมีกำลังใจในการประมวลหาความเป็นไปได้ในการหาทางออก รวมถึงโอกาสที่มีในวิกฤตอยู่อีกครั้งหนึ่ง พลิกทีมจากทีมที่เจอ “โชคร้าย” ให้เป็นทีมที่มองเห็น “โชคดี” ในมือ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า พวกเราทุกคนก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่ใช่ผู้วิเศษ ท้อได้ พักได้ ถอยมาตั้งหลักใหม่ได้ มาช่วยประคับประคองซึ่งกันและกันให้ลุกไปต่อด้วยกันนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกทีมที่กำลังฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันค่ะ

เราต้องรอดเพื่อจดจำ เรียนรู้ และช่วยกันผลักดันยุคใหม่หลังวิกฤติให้ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ

——————-

> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe

> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact

 

Credit: Photo by Miguel Á. Padriñán from Pexels

 

[content_block id=1898]