HR Blog
วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าถึงความรู้สึกหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพกายและใจของคนทำงานทุกคน ความรู้สึกนี้ในภาษาอังกฤษเรียกว่า being overwhelmed โดยถ้าแปลตรงตัวเป็นไทยจะหมายถึง การที่เราถูกอะไรบางอย่างทับถมถาโถมเข้าหาในปริมาณที่เยอะเกินต้านทานหรือรับไหว อะไรบางอย่างในที่นี้อาจเป็นข้อมูล ความคิด หรือความรู้สึกของเราก็ได้ โดยบทความนี้จะพูดถึงความคิดและอารมณ์เชิงลบที่เกิดจากการทำงานเป็นหลัก
โดยทั่วไปคนเราจะรู้สึกเครียดและกดดันจากการทำงานเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ไม่ว่าจากการรับโทรศัพท์ลูกค้า ตอบอีเมล หรือคิดคอนเทนต์งาน แต่เมื่อไรก็ตามที่ในช่วงนั้นมีเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นบ่อย เช่น ลำดับความสำคัญของงานที่เปลี่ยนแปลง มีงานแทรก หรือต้องรับมือกับปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ ความรู้สึกลบ ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และสะสมรวมกันจนเรารู้สึก overwhelmed รู้สึกเหมือนจะจมลงไปในความคิดความรู้สึกลบ ๆ เหล่านั้น
คนที่รู้สึก overwhelmed จะรู้สึกหงุดหงิด โกรธ กังวล หรือแม้กระทั่งท้อแท้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายครั้งที่เจ้าตัวไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น หรือจะเริ่มจัดการยังไงดีด้วยความที่มันสะสมมาจากหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ที่น่ากลัวกว่าความรู้สึก overwhelmed คืออาการ burnout หรืออาการหมดไฟในการทำงานที่อาจตามมา เปรียบได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องทำงานในสภาพโอเวอร์โหลด ระบบการทำงานจะช้าลงจนดับไปในที่สุด
ก่อนที่จะปล่อยให้สภาพจิตใจเราแย่ขนาดนั้น ลองมาดูดีกว่าว่ามีวิธีอะไรง่าย ๆ ที่สามารถช่วยจัดการอารมณ์ของเราได้บ้าง
1. หยุด – เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าจิตใจกำลังว้าวุ่น เต็มไปด้วยอารมณ์และความคิดฟุ้งซ่าน ลองสั่งให้ตัวเอง ‘หยุด’ ด้วยการพูดออกมาหรือพูดในใจก็ได้ ที่สำคัญคือต้องยอมรับว่าตัวเองกำลังอยู่ในอาการ overwhelmed ส่วนตัวผู้เขียนชอบมองนอกหน้าต่าง มองท้องฟ้าทำให้สมองโล่งและมีพื้นที่ให้หายใจ หรือแบบง่าย ๆ ลองหันหน้าเปลี่ยนโฟกัสไปมองอย่างอื่นในห้องเป็นการขัดจังหวะตัวเองก่อนที่จะจมลงไปในอารมณ์และความคิดมากกว่านี้
แต่บางทีเข้าใจว่าคนเราก็ไม่ได้สังเกตตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในกรณีนี้อยากแนะนำในเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าทีมเป็นฝ่ายช่วยลองสังเกตดูว่าช่วงนี้คนในทีมมีใครที่อารมณ์ไม่ดีตลอดเวลาบ้าง และเข้าไปทักดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้ดูหงุดหงิด ๆ นะ เป็นต้น การทำแบบนี้จะช่วยให้อีกฝ่ายตระหนักถึงสภาพจิตใจของตัวเองและเริ่มจัดการตัวเองได้แต่เนิ่น ๆ
2. จัดระเบียบ – หลังจากที่ใจเย็นลงทำให้เราสามารถมองภาพของสถานการณ์โดยรวมได้ ก็ถึงเวลาจัดระเบียบสมองที่วุ่นวาย หากในช่วงนั้นมีงานเยอะจนรับมือไม่ไหวก็ให้ลองเขียนลิสต์งานที่มีออกมาและจัดลำดับความสำคัญ และหากมีงานไหนที่ไม่เร่งด่วนก็ให้ปล่อยไว้ก่อนอย่าเพิ่งไปสนใจมัน
จากประสบการณ์ของผู้เขียน ก่อนที่จะเขียนและมัวแต่คิดกังวลอยู่ในหัวอย่างเดียว งานทุกงานจะถูกย้อมด้วยความรู้สึกแย่ ๆ จนกลายเป็นว่าทุกอย่างดูใหญ่และยากไปหมด แต่เมื่อเขียนออกมาแล้ว งานแต่ละอย่างจริง ๆ ก็ไม่ได้ซับซ้อนเกินรับไหวอย่างที่คิด
อีกวิธีหนึ่งคือหาคนคุย ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจหรือเมนเทอร์ของเราก็ได้ การที่ได้พูดความรู้สึกออกมาถือเป็นการระบาย และเมื่อต้องพยายามอธิบายปัญหาที่เราเผชิญอยู่ให้คนอื่นฟัง ความคิดของเราก็จะถูกจัดเรียงไปด้วยในตัว
3. ช่วยผู้อื่น – ข้อนี้อาจจะฟังดูแปลกนิดนึง แต่การที่เรายื่นมือไปช่วยคนอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือแค่รับฟังปัญหาของเขา นอกจากจะช่วยเบนโฟกัสออกจากตัวเองสู่ภายนอก (ผู้อื่น) ยังช่วยให้เราเห็นด้วยว่าสถานการณ์แย่ ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราคนเดียว แต่สามารถเกิดกับใครก็ได้ นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังได้พบว่าการเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือผู้อื่น (Altruistic act) จะไปกระตุ้นให้สารเคมีในสมองที่ทำให้เรารู้สึกดีหลั่งออกมา ส่งผลให้เครียดน้อยลงและอารมณ์ดีขึ้น
ท่านผู้อ่านลองสังเกตตัวเองและเพื่อนร่วมงานดูนะคะว่ามีใครที่ดูขุ่นมัวบ้างหรือเปล่าช่วงนี้ เพื่อการจัดการและช่วยเหลือที่ทันท่วงที
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของวิธีการจัดการอารมณ์ในระดับเบื้องต้น ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า ยังมีอีกหลากหลายเทคนิคที่หลาย ๆ ท่าน อาจจะใช้อยู่ หากต้องการแบ่งปันเทคนิคดี ๆ เหล่านั้น สามารถแชร์กับทางทีมงานเราได้เช่นกันนะคะ
——————-
> Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารน่าสนใจ และบทความแนะนำที่คนทำงานไม่ควรพลาด:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/subscribe
> ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคุยกับที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล:
https://asian-identity.com/hr-egg-th/contact
Credit: Photo by Adeolu Eletu from Unsplash
[content_block id=1898 title=yes title_tag=h3]
05 ส.ค., 2021
HR Blog Management with Luck การบริหารกับโชค
12 ม.ค., 2021
HR Blog หยุดเพื่อ Reflect สำหรับการวางแผนก้าวต่อไปที่ไปไกลได้กว่าเดิม
11 มิ.ย., 2021
HR Blog 3 กิจกรรมง่าย ๆ เรียกพลังก่อนประชุมออนไลน์