Asian Identity

[Public Workshop Report] Proactive Professionalism Workshop #Batch3

16 ต.ค. 2025

การทำงานในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถในหน้าที่ แต่ยังต้องมี ทัศนคติแบบมืออาชีพ (Professional Mindset) ที่ทำให้บุคลากรทำงานด้วยแนวคิดแบบเชิงรุก (Proactive Mindset) เห็นความสำคัญของการสื่อสาร การทำงานร่วมกับทีม การบริหารจัดการงานของตนเอง ฯลฯ 

Proactive Professionalism Workshop ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างทัศนคติและทักษะเหล่านี้ให้ผู้เข้าร่วม โดยเฉพาะพนักงานที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นเส้นทางการทำงาน ไปจนถึงมีประสบการณ์ในการทำงานไม่เกิน 10 ปี ให้สามารถพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็น “มืออาชีพ” ที่ทีมและองค์กรสามารถไว้วางใจได้

 

 

โดยที่ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ผ่านหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ 

Teamwork & Communication เริ่มต้นด้วยเรียนรู้การทำงานเป็นทีมและหลัก Ho-Ren-So ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร โดยในกิจกรรมช่วยให้เห็นความสำคัญของการรายงานความคืบหน้า การสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง และการปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาในหน้างาน เพื่อช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น

 

 

Customer Focus ผ่านแนวคิด Omotenashi หรือจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น ผู้เข้าร่วมได้ฝึกมองปัญหาในมุมของลูกค้า เรียนรู้การเข้าใจความต้องการที่ภายในที่ไม่ได้ถูกสื่อสารออกมาและการตอบสนองต่อความคาดหวังอย่างเหนือความคาดหมาย

 

Professionalism ในส่วนของการพัฒนาความเป็นมืออาชีพ มีการใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกคิดและลงมือจริง ได้แก่

• Risk Management: วิเคราะห์และจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นผ่าน Case Study
• 3GEN (Genba, Genbutsu, Genjitsu): เรียนรู้หลักการ สังเกตปัญหา และฝึกการตัดสินใจจากข้อเท็จจริงในสถานการณ์จริง เพื่อบริหารจัดการให้เห็นปัญหาและความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น 
• PDCA: ฝึกการวางแผน ลงมือ ตรวจสอบ และปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมสถานการณ์จำลอง
• Kaizen: ได้เรียนรู้แนวคิดการปรับปรุงเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระยะยาว

 

 

Self-Management ปิดท้ายด้วยการทบทวนและจัดการตนเอง ผ่านเครื่องมือที่ช่วยให้มองเห็นมิติของงานและแรงจูงใจได้ชัดเจนขึ้น ได้แก่

• Eisenhower Matrix: เรียนรู้และวางแผนจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• Must – Can – Will: สะท้อนย้อนคิดเพื่อทำความเข้าใจบทบาทที่ต้องรับผิดชอบ (Must) ความสามารถและจุดแข็งของตนเอง (Can) และค้นหาสิ่งที่เป็นแรงจูงใจของตนเอง (Will)

 

 

หลักจากจบเวิร์กชอป ผู้เข้าร่วมหลายท่านก็ได้แชร์ความคิดเห็นที่หลากหลายและมีความหมาย อาทิ

หลักจากได้เรียนรู้หัวข้อ Ho-Ren-So ทำให้เห็นและเข้าใจความคาดหวังของคนที่ทำงานร่วมกัน เลยอยากจะ Ho-Ren-So  ให้มากขึ้นในอนาคต เพราะก่อนหน้านี้เป็นคนที่ไม่ค่อยอัพเดทสถานะงานระหว่างการทำงานเท่าไหร่นัก

ในตอนนี้กำลังค้นหา Drive และ Motivation ของตนเองอยู่ พอได้เรียนรู้และฟังหัวข้อ Must Can Will ทำให้มีแรงบันดาลใจและอยากจะหา Drive ของตัวเองยิ่งกว่าเดิม

ในหัวข้อ Task Prioritization วิทยากรให้เราลองลิสต์งานต่าง ๆ  ที่อยู่ในมือ เลยพบว่าเรามีงานที่ ‘ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน’ มากเกินไป จึงได้เรียนรู้ว่าเราต้องจัดลำดับความสำคัญของงาน ต้องลดการทำงานที่ไม่สำคัญโดยมอบหมายงานเหล่านั้นให้ผู้อื่น เพื่อที่เราจะได้มีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญและเร่งด่วน

ในหัวข้อ Omotenashi อยากเอาไปปรับใช้ให้การทำงานด้านเซลล์ของเรา เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ได้เรียนรู้ว่าเราควรใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการถามและรับฟัง เพื่อหาความต้องการข้างในของลูกค้า ไม่ใช่แค่ตอบรับสิ่งที่ลูกค้าร้องขอแต่เพียงผิวเผิน

การมาเข้าร่วมเวิร์กชอปนี้นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จากผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการทำงานได้